วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

การแทรกรูปภาพลงในบทความ

การแทรกรูปภาพลงในบทความ

1 เข้าไปที่ blog ของตัวเอง คลิกที่บทความใหม่ คลิกที่เพิ่มรูปภาพ

2 คลิก Browse แล้วเลือกรูปภาพที่ต้องการ แล้วก็เสร็จสิ้น


3 แล้วก็คลิกที่เผยแพร่ ก็จะได้รูปภาพที่ต้องการ

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552

กำแพงเมืองจีน


ชื่อสถานที่ กำแพงเมืองจีน: Great Wall of China
สถานที่ตั้ง ประเทศจีน
ปัจจุบัน สามารถเข้าเยี่ยมชมได้
กำแพงเมืองจีน หรือกำแพงอิฐยักษ์ เป็นกำแพงกั้นเมือง และกั้นประเทศทั้งประเทศ ตามพรมแดนด้านเหนือของจีน เป็นกำแพงที่ยาวใหญ่มหึมา หาที่ใดในโลกมาเปรียบ ไม่ได้อีกแล้ว มีขนาดกว้างตั้งแต่ 4.5 เมตร ถึง 7.5 เมตร(10 ฟุต) ซึ่งทหารม้าเข้าแถวเรียง 8 ได้อย่างสบาย ๆ มีความสูง จากพื้นด้านล่างตั้งแต่ 8 เมตร ถึง 9 เมตร(20-30 ฟุต หนา15-25 ฟุต) สูงพอที่จะไม่สามารถ ปีนข้ามไปได้ง่าย ๆ เดิมเชื่อว่ามีความยาว 2,550 ไมล์ ( 2,400 กิโลเมตร) บนกำแพงทุก ๆ ระยะ 200 เมตร(300 ฟุต) จะมีหอหรือป้อม สำหรับตรวจเหตุการณ์ มีป้อมมากกว่า 15,000 แห่ง สร้างสูงขึ้นไปอีก 3 เมตร ถึง 6 เมตร และมีระฆังแขวน เพื่อตีบอกสัญญาณเกิดเหตุ ไว้ประจำทุกหอ รวมทั้งหมดมีไม่ต่ำกว่า 20,000 หอ เริ่มสร้างระหว่างปี พ.ศ. 300-329 (243-252ปีก่อนคริสตกาล) ในสมัยพระเจ้าซี่วังตี่ ใช้เวลาสร้างประมาณ 10 ปี และมีการสร้างต่อเติมอีกหลายกครั้ง ใช้แรงงานเกณฑ์จากราษฎรทั้งประเทศ นับจำนวนล้าน มีผู้เสียชีวิตนับพันนับหมื่น
เป็นสิ่งก่อสร้าง ชนิดเดียวในโลก ที่สามารถมองเห็น เมื่อมองจากดวงจันทร์ ในสมัยนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่ป้องกันข้าศึกได้อย่างดีเยี่ยม ปัจจุบันไม่มีความหมายในด้านป้องกันประเทศอีกแล้ว คงมีค่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มหัศจรรย์อย่างหนึ่งของโลก
ท่านสามารถดาวน์โหลดข้อมูลในรูปแบบ Microsoft Word ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

ตัวอย่าง การขอวีซ่า

ก่อนจะเดินทางไปต่างประเทศ หลังจากเตรียมตัวก่อนจะออกเดินทาง ลองมาดูสิ่งที่ต้องใช้ และเอกสารในการขอวีซ่าไปประเทศต่างๆ

เอกสารในการขอยื่นวีซ่า AUSTRALIA
เอกสารในการขอวีซ่า Australia

· หนังสือเดินทางมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
· รูปถ่าย 2 รูป ขนาด 1 นิ้วครึ่งหรือ 2 นิ้ว
· สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนสมรส(ถ้ามี)
· บรับรองการทำงานของบริษัทที่ทำงานอยู่ หรือสำเนาทะเบียนการค้าถ้าเป็นเจ้าของกิจการ
· หลักฐานการเงินโดยใช้สำเนาถ่ายจากสมุดเงินฝากส่วนตัวย้อนหลัง 6 เดือน
· ข้าราชการจะต้องมีจดหมายลางานจากต้นสังกัด และสำเนาบัตรประจำตัวราชการ 1 ชุด
· เด็กขอหนังสือรับรองจากโรงเรียน(ตัวจริง) หรือสมุดรายงานประจำตัวนักเรียน
· เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จะต้องมีใบอนุญาตจากผู้ปกครอง(บิดาหรือมารดา)
หากเด็กเดินทางไปกับบิดาจะต้องมีใบรับรองจากมารดา หรือหากเด็กเดินทางกับมารดาจะต้องมีใบรับรองจากบิดา
· ใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
· ผู้ใหญ่อายุเกิน 70 ปี จะต้องมีใบรับรองแพทย์ และใบประกันสุขภาพ (จากบริษัทประกันภัย)


เอกสารในการขอยื่นวีซ่า CHINA
เอกสารในการยื่นวีซ่า CHINA
· หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
· คำร้องขอวีซ่า ซึ่งกรอกอย่างสมบูรณ์เป็นภาษาอังกฤษ
· รูปสี ขนาด 1-1นิ้วครึ่ง หรือ 4 ซ.ม. X 4 ซ.ม. 2 รูป
· ในกรณี ธุรกิจ ต้องมีจดหมายเชิญจากหน่วยงานที่ติดต่อเพื่อประกอบการพิจารณา
· หลักฐานการทำงาน โดยระบุถึงวันที่เริ่มทำงาน เงินเดือน ตำแหน่ง ระยะเวลาที่ลางานได้ กรณี ข้าราชการ และลูกจ้างของรัฐบาลไทย ควรมีใบอนุมัติการลาหยุดงานมาแทน ถ้าประกอบธุรกิจส่วนตัว ควรแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของกิจการ ในรายที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ต้องแสดงหลักฐานทางเศรษฐกิจของบิดา-มารดา
· หลักทรัพย์ ควรยื่นแสดงเอกสารทางการเงิน อาทิ สมุดบัญชีเงินประจำ บัญชีกระแสรายวัน บัญชีออมทรัพย์ หรือ ตั๋วสัญญาใช้เงิน
· หลักฐานอื่น ๆ ** ท่านสามารถใช้ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส และสูติบัตร เพื่อยืนยันความผูกพันทางครอบครัว หากท่านมีอาชีพ เป็นนายแพทย์ ทนายความ วิศวกร ท่านควรนำใบอนุญาต การประกอบอาชีพนั้น ๆ มาแสดง


เอกสารในการขอยื่นวีซ่า CANADA
เอกสารในการยื่นวีซ่า Canada
· หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
· คำร้องขอวีซ่า ซึ่งกรอกอย่างสมบูรณ์เป็นภาษาอังกฤษ
· รูปสี ขนาด 1-1นิ้วครึ่ง หรือ 4 ซ.ม. X 4 ซ.ม. 2 รูป
· หลักฐานถิ่นที่อยู่ : การยื่นขอวีซ่าประเภทธุรกิจ/ ท่องเที่ยว หมายถึง ผู้ยื่นคำร้องกำลังขอวีซ่าเข้าประเทศ
เป็นการชั่วคราว ผู้ยื่นขอวีซ่าต้องแสดงให้เป็นที่พอใจว่าไม่มีความประสงค์ที่จะเข้าไปอยู่เป็นการถาวร
ผู้ยื่นคำร้องจะทำได้โดยการแสดงหลักฐานความผูกพัน ทางครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคมอื่นๆ ที่มีอยู่
· หลักฐานการทำงาน โดยระบุถึงวันที่เริ่มทำงาน เงินเดือน ตำแหน่ง ระยะเวลาที่ลางานได้ กรณี ข้าราชการ และลูกจ้างของรัฐบาลไทย ควรมีใบอนุมัติการลาหยุดงานมาแทน ถ้าประกอบธุรกิจส่วนตัว ควรแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของกิจการ ในรายที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ต้องแสดงหลักฐานทางเศรษฐกิจของบิดา-มารดา
· หลักทรัพย์ ควรยื่นแสดงเอกสารทางการเงิน อาทิ สมุดบัญชีเงินประจำ บัญชีกระแสรายวัน บัญชีออมทรัพย์ หรือ ตั๋วสัญญาใช้เงิน
· หลักฐานอื่น ๆ ** ท่านสามารถใช้ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส และสูติบัตร เพื่อยืนยันความผูกพันทางครอบครัวหากท่านมีอาชีพ เป็นนายแพทย์ ทนายความ วิศวกร ท่านควรนำใบอนุญาต การประกอบอาชีพ
นั้น ๆ มาแสดง
· ในกรณี ธุรกิจ ต้องมีจดหมายเชิญจากหน่วยงานที่ติดต่อเพื่อประกอบการพิจารณา

เอกสารในการขอยื่นวีซ่า FRANCE
เอกสารการยื่นวีซ่า
1. หนังสือเดินทางที่เหลืออายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน
2. สำเนาหนังสือรับรองบริษัทฯ ที่มีรายชื่อกรรมการอายุไม่เกิน 3 เดือน (กรณีเป็นเจ้าของหรือกรรมการ บริษัทฯ)
3. จดหมายรับรองการทำงานจากบริษัทฯ ถึงสถานทูตเป็นภาษาอังกฤษ ใช้หัวจดหมายบริษัทฯ
4. สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน
5. สำเนาทะเบียนสมรส (เฉพาะสุภาพสตรี)
6. หลักฐานการเงินใช้ สำเนา Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของบริษัทฯ (ธุรกิจ)
- ท่องเที่ยวใช้ Statement ส่วนตัว
7. รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน 2 นิ้ว 2 ใบ (รูปสี ฉากหลังสีพื้นสีอ่อน)
8. หนังสือเชิญ (ถ้ามี)
9. ใบจองโรงแรม
10. สำเนาตั๋วเครื่องบิน หรือ BOOKING ตั๋ว
11. ประกันการเดินทาง
12. หนังสือเดินทางเล่มเก่า (ถ้ามี)

เอกสารในการขอยื่นวีซ่า JAPAN
เอกสารในการขอวีซ่า Japan
· พาสปอร์ต มีอายุใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
· รูปถ่าย 2” – 2.5” จำนวน 2 รูป
· สำเนาทะเบียนบ้าน, บัตรประชาชน, ทะเบียนสมรส (ถ้ามี), สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ ,นามสกุล (ถ้ามี)
· สูติบัตร (อายุต่ำกว่า 15 ปี)
· ใบรับรองการทำงานจากบริษัทที่ท่านทำงานอยู่, สำเนาทะเบียนการค้า (กรณีเป็นเจ้าของ)
· เด็ก : ขอหนังสือรับรองจากโรงเรียน (ตัวจริง) เป็นภาษาอังกฤษ
· ในกรณีที่ไม่ได้เดินทางพร้อมผู้ปกครอง
· 1.บิดา และมารดาจะต้องทำหนังสือยินยอมให้บุตรเดินทาง ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือที่ทำการเขต
· 2.สำเนาบัตรประชาชน (บิดา และมารดา)
· 3.ใบรับรองการงานของบิดา หรือมารดา
· 4.การเงิน (สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากตั้งแต่หน้าแรกจนถึงปัจจุบัน) ของบิดา หรือมารดา
· ข้าราชการ : จดหมายรับรองการทำงานจากต้นสังกัด และสำเนาบัตรข้าราชการ 1 ชุด
สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือประจำตั้งแต่หน้าแรกจนถึงปัจจุบัน

กลุ่มประเทศที่ผู้เดินทางสัญชาติไทย ไม่ต้องขอวีซ่า
ลาว
ฟิลิปปินส์
เวียดนาม
อินโดนีเซีย
ฮ่องกง
ิเกาหลีใต้
สิงคโปร์
เนปาล(กรณีอยู่ไม่เกิน 4 วัน)

กรมการกงสุล


กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ แผนที่
- ที่อยู่ 123 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
- โทรศัพท์ 0-2981-7171-99 โทรสาร 0-2981-7256
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว บางนา
แผนที่
- ที่อยู่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลซิตี้บางนา อาคาร "บางนาฮอลล์"(ด้านข้างศูนย์การค้า) ชั้น B1
- โทรศัพท์ 0-2383-8401-3 โทรสาร 0-2383-8398
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปิ่นเกล้า แผนที่
- ที่อยู่ อาคารธนาลงกรณ์ทาวเวอร์(ชั้นใต้ดิน) แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. 10700
- โทรศัพท์ 0-2446-8111-2 โทรสาร 0-2446-8118-9
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดขอนแก่น
แผนที่
- ที่อยู่ ศูนย์ราชการจังหวัดขอนแก่น ถนนศูนย์ราชการ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000
- โทรศัพท์ 0-4324-2707, 0-4324-3462, 0-4324-2655 โทรสาร 0-4324-3441
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดเชียงใหม่ แผนที่
- ที่อยู่ ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50000
- โทรศัพท์ 0-5389-1535-6 โทรสาร 0-5389-1534
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดสงขลา
แผนที่
- ที่อยู่ ศาลากลางจังหวัดสงขลา (หลังเก่า) ชั้น 1 ถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง จ.สงขลา 9000
- โทรศัพท์ 0-7432-6510-1 โทรสาร 0-7432-6506
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดอุบลราชธานี แผนที่
- ที่อยู่ อาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 34000
- โทรศัพท์ 045-242313-4 โทรสาร 045-242301
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดสุราษฎร์ธานี แผนที่
- ที่อยู่ ศาลาประชาคม ถนนหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000
- โทรศัพท์ 077-274940, 077-274942-3 โทรสาร 077-274941
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดนครราชสีมา แผนที่
- ที่อยู่ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ถนนมหาดไทย อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000
- โทร 044-243-132, 044-243-124 โทรสาร 044-243-133
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดอุดรธานี แผนที่
- ที่อยู่ ศูนย์อเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี(ตรงข้ามกับศาลหลักเมือง) ถนนอธิบดี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี 41000
- โทร 042-212827, 042-212-318 โทรสาร 042-222-810
สำนักงานหนังสือเดินทางชัวคราว จังหวัดพิษณุโลก
- ที่อยู่ ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ถนนเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000
- โทร 055-258-131, 055-258-155, 055-258-173, 055-258-117
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดยะลา
- ที่อยู่ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ถนนสุขยางค์ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา 95000
- หมายเลขโทรศัพท์ 073-274-526, 073-274-036, 073-274-037 โทรสาร 073-274-527

หนังสือเดินทางบุคลธรรมดา






ข้อควรปฏิบัติในวันมายื่นคำร้อง
โปรดนำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาแสดงให้ครบถ้วน โดยเฉพาะการยื่นคำร้องกรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี และ ผู้เยาว์อายุ 15 ปีขึ้นไปแต่ยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ หากเอกสารที่นำมาแสดงไม่ครบถ้วน ท่านจะต้องนำเอกสารดังกล่าวมาแสดงเพิ่มเติมในวันรับเล่ม ซึ่งจะทำให้การรับเล่มล่าช้า เนื่องจากต้องใช้เวลาในการบันทึกข้อมูลเอกสารที่นำมาแสดงเพิ่มเติมลงในระบบให้ครบถ้วน

ขั้นตอนการยื่นขอหนังสือเดินทางใหม่
1. รับบัตรคิว
2. ยื่นบัตรประจำตัวประชาชนที่มีเลข 13 หลัก(หากไม่มีเลข 13 หลัก ต้องนำสำเนาทะเบียนบ้านมาแสดง) พร้อมเอกสารหลักฐานอื่น ๆที่จำเป็น อาทิ หากเปลี่ยนชื่อสกุล ต้องมีหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ นามสกุล ทะเบียนสมรส ฯลฯ มาแสดง เพื่อตรวจสอบข้อมูล
- ข้อมูลชีวภาพ (วัดส่วนสูง เก็บลายพิมพ์นิ้วมือนิ้วชี้ซ้ายและนิ้วชี้ขวาด้วยเครื่องสแกนเนอร์ และถ่ายรูปใบหน้า )
- แจ้งความประสงค์หากต้องการขอรับเล่มทางไปรษณีย์
3. ชำระค่าธรรมเนียม 1,000 บาท (และค่าส่งไปรษณีย์ 35 บาทหากประสงค์ให้จัดส่งทางไปรษณีย์) รับใบเสร็จรับเงิน และรับใบนัดรับเล่ม ท่านจะได้รับหนังสือเดินทาง ดังนี้
-หากยื่นที่กรมการกงสุล ผู้ร้องสามารถรับหนังสือเดินทางได้ 2 วันทำการไม่นับวันยื่นคำร้อง หากรับทางไปรษณีย์จะได้รับใน 5 วันทำการ
-หากยื่นที่สำนักงานสาขาในกรุงเทพฯ (ปิ่นเกล้าและบางนา) ผู้ร้องจะได้รับเล่มภายใน 2 วันทำการไม่นับวันยื่นคำร้อง หากรับทางไปรษณีย์จะได้รับใน 5 วันทำการ
-กรณียื่นคำร้องที่สำนักงานสาขาในต่างจังหวัดและขอให้จัดส่งทางไปรษณีย์ผู้ร้อง (ในเขตเมือง) จะได้รับหนังสือเดินทางภายใน 5 วันทำการ
-โดยที่กระทรวงฯ ได้ติดตั้งเครื่องอ่านหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์จำลองเพื่อผู้ร้องสามารถทดสอบการผ่านเข้า-ออกท่าอากาศยานโดยอัตโนมัติไว้ 1 เครื่อง ที่กรมการกงสุล ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้ขอหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์มารับเล่มด้วยตนเอง เพื่อให้ผู้ถือหนังสือเดินทางมีความคุ้นเคยกับการใช้หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติ
-ในกรณีจำเป็น สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นรับแทนหรือให้จัดส่งทางไปรษณีย์ (EMS)

บุคคลบรรลุนิติภาวะ
1.เอกสารประกอบการขอหนังสือเดินทางธรรมดาของบุคคลบรรลุนิติภาวะ
- บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน หรือ บัตรข้าราชการ หรือ บัตรประจำตัวที่ใช้แทนตามกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับจริง (ในกรณีที่เป็นบัตรข้าราชการให้นำสำเนาทะเบียนบ้านมาด้วย)
- หากมีรายการแก้ไขชื่อสกุล หรือวันเดือนปีเกิด ฯลฯ ซึ่งไม่ตรงกับบัตรประชาชนให้นำหลักฐานการแก้ไขที่เกี่ยวข้องมาแสดงด้วย
2.ค่าธรรมเนียม
- การทำหนังสือเดินทางใหม่เสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท
ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี
ระเบียบการขอหนังสือเดินทางของผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี
ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี ต้องนำสูติบัตรฉบับจริง หากเป็นสำเนาต้องได้รับการรับรองสำเนาถูกต้องจาก อำเภอ/เขตมาแสดงพร้อมผู้มีอำนาจปกครอง หากผู้มีอำนาจปกครองไม่สามารถมาดำเนินการได้ สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาดำเนินการแทนได้โดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจและหนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศพร้อมทั้งบัตรประจำตัวประชาชนของบิดามารดาและ/หรือผู้มีอำนาจปกครองฉบับจริงมาแสดง ทั้งนี้หนังสือมอบอำนาจและหนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศต้องผ่านการรับรองจากอำเภอ/เขต
เอกสารประกอบการขอหนังสือเดินทางธรรมดาของผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี
- สูติบัตรฉบับจริง หากเป็นสำเนาสูติบัตรต้องได้รับการรับรองจากอำเภอ/เขต
- บิดาและมารดา หรือผู้มีอำนาจปกครองนำบัตรประชาชนฉบับจริงมาลงนามต่อหน้าเจ้าหน้าที่บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน หรือ บัตรที่ใช้แทนได้ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ของบิดา มารดา หรือผู้มีอำนาจปกครองฉบับจริง หากชื่อนามสกุลบิดา มารดาในสูติบัตรไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน ให้นำหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุลที่เป็นต้นฉบับมาแสดงด้วย ในกรณีที่มารดาหย่า และจดทะเบียนสมรสใหม่ และใช้นามสกุลใหม่ตามสามีให้นำหลักฐานการหย่าและการสมรสที่เป็นต้นฉบับมาแสดงด้วย
- หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศและบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงของบิดามารดาที่ไม่มา ในกรณีที่บิดา/มารดาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถมาแสดงตัวได้ **หนังสือยินยอมของบิดา/มารดา ต้องผ่านการรับรองจากอำเภอ/เขต (ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี ต้องมีบิดาหรือมารดา คนใดคนหนึ่งมาแสดงตัวให้ความยินยอม)
- เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น อาทิ หลักฐานใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เอกสารหลักฐานการรับรอง บุตรหรือรับบุตรบุญธรรม บันทึกการหย่า ซึ่งมีข้อความระบุให้บุตรอยู่ในความดูแลของบิดา หรือมารดา เป็นต้น
- กรณีบิดา มารดาผู้เยาว์เสียชีวิต / บิดาหรือมารดาผู้เยาว์เป็นชาวต่างชาติมิได้จดทะเบียนสมรสและ ไม่สามารถตามหาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาให้ความยินยอมได้ /บิดามารดามิได้จดทะเบียนสมรสแต่บุตรอยู่ในความดูแลของบิดาฝ่ายเดียวมาตลอด และไม่สามารถตามหามารดาได้ ให้นำคำสั่งศาลซึ่งระบุชื่อผู้มีอำนาจปกครอง พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจปกครองมาแสดง
ค่าธรรมเนียม
- การทำหนังสือเดินทางใหม่เสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท
- ผู้เยาว์อายุ 15 ปีขึ้นไปแต่ยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์
- ระเบียบการขอหนังสือเดินทางของผู้เยาว์อายุ 15 ปีขึ้นไปแต่ยังไม่ครบ 20 ปี บริบูรณ์

ผู้เยาว์อายุระหว่าง 15 ปีขึ้นไปแต่ยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์
ผู้เยาว์ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปแต่ยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ที่ทำบัตรประชาชนแล้วสามารถติดต่อขอทำ หนังสือเดินทางด้วยตนเอง โดยมีหนังสือยินยอมของบิดาและมารดา หรือ ผู้มีอำนาจปกครองที่ยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศที่ผ่านการรับรองจากอำเภอ/เขตมาแสดงประกอบการยื่นคำร้อง หากไม่มีหนังสือยินยอม บิดาและมารดาหรือผู้มีอำนาจปกครองผู้เยาว์ต้องมาลงนามต่อหน้าเจ้าหน้าที่ในวันที่ยื่นคำร้อง (หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาไม่ได้ ให้มาลงนามในวันรับเล่ม) หรือ มีหนังสือยินยอม จากฝ่ายที่มาไม่ได้มาแสดง เอกสารที่นำมายื่นขอหนังสือเดินทางต้องเป็นต้นฉบับหากเป็นสำเนาต้องผ่านการรับรองสำเนาถูกต้อง จากหน่วยงานที่ออกเอกสารดังกล่าวเท่านั้น

เอกสารประกอบการขอหนังสือเดินทางธรรมดาของผู้เยาว์ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป แต่ยังไม่ครบ 20 ปี
บริบูรณ์
- บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน หรือ บัตรประจำตัวที่ใช้แทนตามกฎกระทรวง มหาดไทย
- หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศที่ผ่านการรับรองจากอำเภอ/เขต และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
- เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น อาทิ หลักฐานใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เอกสารหลักฐานการรับรองบุตรหรือรับบุตรบุญธรรมใบสำคัญการสมรส ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า ทะเบียนบ้าน คำสั่งศาลกรณีระบุผู้มีอำนาจปกครองแทนบิดามารดา เป็นต้น
ค่าธรรมเนียม
- การทำหนังสือเดินทางเสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท

วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2552

ข้อมูลการเตรียมตัวเดินทาง

ข้อมูลการเตรียมตัวเดินทาง
เดินทางครั้งแรก
1. สนามบิน เช็คเวลาเดินทางของสายการบินให้ละเอียดพร้อมทั้งสอบถาม อาคาร และหมายเลขเคาน์เตอร์ ให้แน่ชัดก่อนเดินทางสู่สนามบิน และควรเดินทางมาเช็คตั๋วก่อนเครื่องออกอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
2. เอกสารการเดินทางที่สำคัญ ที่สุดของการเดินทางคือ หนังสือเดินทาง หรือ Passport จะต้องมีอายุเหลือ นับจากในวันเดินทาง อย่างน้อย 6 เดือน ** ควรตรวจเช็คหน้าวีซ่า (เฉพาะประเทศที่ต้องสมัครขอก่อนเข้าประเทศ) ว่าชื่อ รายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางถูกต้องหรือไม่ / ตั๋วเครื่องบิน / เอกสารจองที่พัก รถไฟ เรือ ฯลฯ
3. การเช็คอินสายการบิน ใช้ตั๋วเครื่องบิน และหนังสือเดินทาง เตรียมกระเป๋าที่จะลงท้องเครื่องชั่งน้ำหนัก(การเตรียมตัวข้อ5) อยากจะนั่งตรงไหนหน้าต่าง หรือ ริมทางเดิน ก็แจ้งเจ้าหน้าที่สายการบิน แล้วเจ้าหน้าที่จะให้ ใบบรอดดิ้งพาส หรือบัตรระบุที่นั่ง พร้อมแทคกระเป๋า ตามจำนวนที่เราฝากลงท้องเครื่อง (สำคัญมากเพราะเป็นหลักฐานสำหรับใช้เคลมเมื่อกระเป๋าที่ฝากเกิดความผิดพลาดในการส่ง หรือเสียหาย)
4. ออกเมืองไปขึ้นเครื่อง หลังจากเช็คอินแล้ว ต้องเดินต่อไปยังส่วน ตรวจหนังสือเดินทาง (เดินตามป้ายที่มักใช้คำว่า Departure) หลังตรวจหนังสือเดินทางก็เดินไปยังประตูขึ้นเครื่อง (Boarding Gate) โดยเช็คในใบบรอดดิ้งพาส จะมีการตรวจความปลอดภัยอีกครั้ง ที่ประตูขึ้นเครื่อง แล้วขึ้นไปนั่งตาม Seat mที่ระบุในใบบรอดดิ้งพาส
5. บนเครื่อง ฟังอธิบายการใช้อุปกรณ์ต่างๆ และประตูฉุกเฉิน จากเจ้าหน้าที่สายการบินให้เข้าใจ ปิดโทรศัพท์ รัดเข็มขัดตลอดเวลา อย่าคุยเสียงดังรบกวนคนอื่น หรือนำอาหารกลิ่นแรงๆขึ้นไปกินบนเครื่อง เพราะมีอาหารและเครื่องดื่มฟรีอยู่แล้ว(บางสายการบินที่ราคาต่ำอาจต้องจ่ายเงินสำหรับของที่ไม่อยู่ในรายการ)
6. การต่อเครื่อง transit ออกจากเครื่องแล้วเดินตามป้าย TRANSIT หรือ เช็คจอทีวีดูว่าจะต่อเที่ยวบินอะไร จะมีระบุว่าให้ไปที่ประตูหมายเลขใด เวลาเท่าไหร่เครื่องออก(เวลาท้องถิ่น) แล้วไปตาม Terminal หรือ Gate ที่ระบุไว้
7. ลงเครื่อง เดินตามป้าย ARRIVAL หรือ BAGGAGE CLAIM จะนำเราไปที่ตรวจคนเข้าเมือง เข้าแถวรอตรวจให้ถูกช่อง แล้วเดินไปยังรางรับกระเป๋า(จะมีจอทีวีใหญ่ ระบุว่ามาเที่ยวบินไหน ให้รับกระเป๋าที่รางกระเป๋าหมายเลขใด) รับกระเป๋าให้เรียบร้อย ผ่านศุลกากรจนถึงทางออกจากสนามบิน....

เตรียมตัวอย่างไร?
1. ของใช้ประจำตัวที่สำคัญ ประเภท ยาประจำตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ที่โกนหนวด หวี เครื่องสำอาง โลชั่นทาผิว ลิปมัน และหากมีผิวที่ไวต่อสารสารระคายเคือง ก็ควรนำสบู่ ครีมล้างหน้าติดไปเองด้วยจะดีกว่าครับ
2. เสื้อผ้า ควรมีการจัดเตรียมให้เหมาะกับสภาพอากาศ ก่อนเดินทางก็มาเช็คสภาพอากาศก็ได้ครับ ควรวางแผนการใส่เสื้อผ้าในแต่ละวันก่อนเดินทาง เสื้อผ้าจะได้ไม่ขาดหรือเกินโดยไม่จำเป็น ***หากไปเที่ยวในที่ที่มีอากาศหนาวมากๆ ควรมีเสื้อรัดรูป(ลองจอห์น) หมวกไหมพรม ถุงมือ และเสื้อกันหนาวที่อบอุ่นไปให้พร้อม
3. ชุดชั้นใน ทั้งท่านชายและท่านหญิงก็จัดไปตามจำนวนวันเลยครับ หรือหาประเภทใช้แล้วทิ้ง หากไปต่างประเทศนานๆก็พิจารณาเองนะครับ เพราะถ้าเที่ยวกับทัวร์หาโอกาสซักตาก ยากครับ
4. รองเท้า ที่มักเจอปัญหาบ่อยคือ โดนรองเท้ากัดเพราะเปิดกล่องรองเท้าใหม่ หากซื้อใหม่ก็ทดลองใส่ให้ชินเท้าก่อนนะครับ จะได้ไม่ต้องทรมานกับของใหม่ตอนไปเที่ยว ** หากต้องเดินบนหิมะควรใช้รองเท้าที่มีดอกยางด้านล่าง ไม่ควรใช้รองเท้าพื้นเรียบ เพราะจะลื่นง่าย
5. กระเป๋าเดินทาง ควรจัดของให้พอดีกับกระเป๋า เพราะถ้าจัดของน้อยใส่กระเป๋าใบใหญ่เวลาขึ้นเครื่องกระเป๋าอาจถูกของคนอื่นทับจนบี้แบนเสียรูปได้ ถ้ามากเกินไปเวลาเขาโยนส่งกระเป๋าอาจทำให้กระเป๋าแตก หรือปริได้ นอกจากนั้นกระเป๋าที่หนักเกินไปจะทำให้หูกระเป๋า ล้อเลื่อนของกระเป๋า จากไปก่อนวัยอันควรได้ครับ ถ้าร้ายกว่านั้นคือ สายการบินบางที่จะไม่ยอมให้นำกระเป๋าที่หนักเกินไปขึ้นเครื่อง เพราะเขากลัวพนักงานเขาหลังหัก หรือท่านมาเคลมตอนกระเป๋าชำรุด คราวนี้มีอะไรอยู่ข้างในก็จะต้องแบ่งออกมาใส่กระเป๋าอื่น กระเป๋าโดยทั่วไปควรเกิน 20-25 กก. หรือ ยกด้วยแขนข้างเดียวแล้วกระเป๋าลอยขึ้นมาจากพื้นได้นั่นแหละครับจึงใช้ได้ กำหนดน้ำหนักกระเป๋าทั่วไปแต่ละใบไม่เกิน 20 กก. กระเป๋าถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กก. ข้อแนะนำอีกอย่างหนึ่ง คือควรทำสัญลักษณ์บนกระเป๋าของท่านให้ต่างจากกระเป๋าใบอื่นเช่นผูกโบว์ หรือติดป้ายชื่อเด่นๆ เพื่อป้องกันคนที่ใช้กระเป๋าที่คล้ายกับเราเขาหยิบผิดไปครับ "ถ้ามีรหัสล๊อกก็จดจำให้ดีนะครับ"
6. **เสบียงอาหาร อาหารในรายการทัวร์ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารท้องถิ่น ถ้าไม่ชินกับอาหารจีนก็เตรียมเสบียงอาหาร หรือเครื่องชูรสที่ชื่นชอบไปได้ครับ ***บางประเทศ ห้ามนำพืช ผลไม้ ผักสด ผ่านศุลกากรเข้าสู่ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา จีน เป็นต้น
7. เมื่อมีเด็กเล็ก ควรนำของที่เด็กชอบเป็นพิเศษติดตัวไปด้วยครับ
8. ข้อนี้ สำหรับสุภาพสตรีครับ อย่าลืมผ้าอนามัย เพราะบางที่ก็หายากครับ ติดไว้มั่นใจกว่า
9. เงิน และการแลกเงิน ควรติดเงินสดสกุลเงินของประเทศที่จะเดินทางไปจากเมืองไทยครับ จะได้ราคาที่ดี ถ้าเงินของบางประเทศไม่สามารถหาแลกได้ในเมืองไทย ก็ควรแลกเป็น US Dolla ไปแลกเงินท้องถิ่นอีกครั้งที่สนามบินหรือโรงแรมเมื่อเดินทางถึงแล้ว *** ควรมีบัตรเครดิตติดตัวไว้ตลอด
10. เวลา ควรศึกษาโซนเวลาของประเทศต่างๆก่อนเดินทาง จะได้กำหนดเวลาพัผ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีแก้การปรับเวลาของร่างกายไม่ได้(เจตแลค) คือ พยามฝืนตัวเองอย่านอนกลางวัน และหัวค่ำ ให้นอนให้ดึกที่สุดในช่วงปรับตัว2 วันแรก
11.ไฟฟ้า ประเทศต่างๆมีระบบไฟฟ้าที่แตกต่างกัน แต่ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถใช้ได้ทุกระบบ ***จะมีปัญหาก็ตรงหัวปลั๊ก จึงควรเตรียมหัวปลั๊กที่ถูกต้องติดตัวไปด้วย (สามารถซื้อได้ที่สนามบินขาออก)
12.มีดพับ กรรไกร ที่ตัดเล็บ ของมีคมฯลฯ ไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง ควรใส่ในกระเป๋าใบใหญ่ แล้วเช็คอินลงใต้ท้องเครื่อง
13.ไม่ควรนำเครื่องประดับราคาสูงติดตัวไปด้วย เพราะเป็นอันตรายกับตัว และเสี่ยงจากการสูญหาย
14. กล้องและฟิล์ม ควรนำฟิล์ม แผ่นบันทึกภาพ ที่ชาร์ตไฟ และแบตเตอรี่สำรองติดตัวไปให้พร้อมครับ
15. อื่นๆ แว่นกันแดด หมวก ร่มขนาดเล็ก ครีมทากันแดด หนังสืออ่านเล่น เกมส์ พิจารณากันตามสมควร

เมื่อวันวาน

g,njv;yo;ko